2023.01.24 | HOW TO

ความลับของค่าสายตาที่คุณอาจไม่เคยรู้

ค่าสายตา เป็นค่าที่ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาสายตาเพื่อให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน ยิ่งมีค่าสายตาเยอะ ก็จะต้องสวมแว่นที่มีค่าสายตามากตามไปด้วย และถ้าไม่รู้ค่าสายตาที่แน่นอนของตัวเองก็จะไม่สามารถตัดแว่นได้ ดังนั้นในบทความนี้จะมาไขความลับความหมายของค่าสายตาให้ทุกคนได้รู้กัน

ค่าสายตาประกอบด้วยอะไรบ้าง?

การเขียนค่าสายตาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้านแว่นตาหรือจักษุแพทย์แต่ละที่ ส่วนใหญ่มักจะประกอบด้วยค่าPD ค่าSPH ค่าCYL ค่าAXIS บางที่อาจเขียนด้วยตัวย่อ เช่น S C AX แทน
ค่าPD หมายถึง ค่าระยะห่างระหว่างจุดตาดำทั้งสองข้าง
ค่าSPH หมายถึง ค่าสายตา
ค่าCYL หมายถึง ค่าเอียง
ค่าAXIS หมายถึง องศาเอียง
ในใบวัดสายตาจะเขียนว่า "S-...D C-...D AX..." ซึ่ง - หมายถึง ค่าสายตาสั้น และ + หมายถึง ค่าสายตายาว เช่น SPH-1.00 หมายถึงสายตาสั้น -1.00 (หนึ่งร้อย) หรือ SPH+2.00 หมายถึงสายตายาว +2.00 (สองร้อย) ยิ่งตัวเลขสูงเท่าไหร่ยิ่งต้องแก้ไขค่าสายตามากขึ้นเท่านั้น

ค่าระยะห่างระหว่างจุดตาดำ (PD) หมายถึง ระยะห่างของจุดตาดำทั้งสองข้าง ใช้เป็นจุดโฟกัสของเลนส์ โดยเฉลี่ยแล้วจะมีระยะอยู่ที่ 60-64 มม.
ค่าเอียง (CYL) หมายถึง ค่าสายตาเอียง โดยจะเขียนเป็น - สำหรับผู้ที่มีค่าสายตาเอียงน้อยกว่า -0.75 อาจแก้ไขค่าสายได้โดยการสวมแว่นสำหรับสายตาสั้นหรือยาวแทน จึงไม่จำเป็นต้องสวมแว่นที่มีค่าเอียงก็ได้

องศาเอียง (AXIS) หมายถึง ทิศทางและมุมของสายตาเอียง องศาเอียงจะมีทั้งหมด 180 องศา หากไม่มีค่าสายตาเอียง ค่าAXISตรงนี้ก็จะเป็น 0
ไดออปเตอร์ (D) หมายถึง หน่วยที่ใช้ระบุกำลังหักเหแสงของเลนส์ และบ่งบอกถึงระยะโฟกัสของตา

มารู้จักค่าสายตาของแว่นกันเถอะ!

หากสวมแว่นตาที่มีค่าสายตาไม่ถูกต้อง อาจทำให้ปวดหัวหรือเวียนหัวได้ ดังนั้นตอนเลือกแว่น ควรเลือกแว่นที่มีค่าสายตาเหมาะสมกับตัวเองเพื่อให้รู้สึกสบายตามากที่สุด

ค่าสายตาของแว่นตา

การเข้าใจค่าสายตาของแว่นตาเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะเลือกซื้อกรอบแว่น เพราะยิ่งมีค่าสายตามากเลนส์ก็จะยิ่งหนาขึ้น สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความหนาของเลนส์ควรเลือกใช้กรอบแว่นขนาดเล็ก เนื่องจากจะช่วยตัดส่วนที่หนาอย่างขอบเลนส์ออกไปและทำให้เลนส์ดูบางลง

ปัจจุบันเราสามารถเข้ารับบริการวัดสายตาได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับตาเป็นพิเศษหรือไม่ต้องการใบรับรองแพทย์ สามารถไปวัดสายตาที่ร้านแว่นตาทั่วไปได้ ซึ่งปกติแล้วมักไม่มีค่าใช้จ่ายในการให้บริการ

บางคนอาจคิดว่าค่าสายตาของแว่นสายตาและคอนแทคเลนส์นั้นเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วต่างกัน เนื่องจากคอนแทคเลนส์จะต้องติดกับกระจกตา ทำให้ค่าสายตาของคอนแทคเลนส์ก็จะเท่ากับหรือน้อยกว่าค่าสายตาของแว่น ส่วนแว่นตาจะมีระยะห่างระหว่างกระจกตากับเลนส์จึงมีค่าสายตามากกว่าค่าสายตาของคอนแทคเลนส์ แต่สำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นมากหรือผู้ที่สวมแว่นตาเฉพาะตอนอยู่ที่บ้าน แว่นตานั้นอาจมีค่าสายตาน้อยกว่าคอนแทคเลนส์ เพราะถ้ามองวัตถุที่อยู่ใกล้ด้วยแว่นสายตาที่มีค่าสายตาสูง ดวงตาจะต้องเกร็งกล้ามเนื้อเพื่อโฟกัสซึ่งอาจทำให้เกิดอาการตาล้าได้ ดังนั้นตอนที่เลือกซื้อแว่นตา ให้จำไว้เสมอว่าแว่นที่สามารถมองไกลๆ ได้อย่างชัดเจนก็อาจจะไม่ใช่แว่นที่เหมาะสมสำหรับคุณก็ได้ ควรคำนึงถึงการใช้งานของตัวเองเป็นหลัก

ถ้าใส่แว่นที่มีค่าสายตาไม่เหมาะกับตัวเอง จะมีอาการยังไง?

การสวมแว่นที่มีค่าสายตาไม่เหมาะกับตัวเองจะไม่ได้ทำให้ค่าสายตาเพิ่มขึ้นในทันที แต่อาจทำให้เกิดอาการตาล้าได้ หากแว่นตามีค่าสายตาน้อยเกินไปก็จะมองเห็นวัตถุที่อยู่ไกลได้ไม่ชัดเจน ทำให้ต้องเพ่งเพื่อปรับปริมาณแสงที่เข้าสู่ดวงตาให้สามารถโฟกัสได้ แต่ถ้าเพ่งบ่อยเกินไปตาก็จะทำงานหนักและเกิดอาการตาล้า ในทางตรงกันข้ามหากแว่นมีค่าสายตามากเกินไป ตอนมองวัตถุที่อยู่ใกล้ก็จะรู้สึกถึงแรงกดหรือแรงตึงบริเวณดวงตา ทำให้รู้สึกปวดหัวได้

นอกจากนี้ เมื่อการมองเห็นทำงานได้ไม่ถูกต้อง การทำงานของสมองก็จะลดลงซึ่งอาจนำไปสู่ความเครียดได้ ความเครียดนี้อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว ปวดไหล่ โรคกระเพาะ คลื่นไส้ และโรคอื่นๆ และเป็นสาเหตุของอาการตาล้า เวียนหัว และสมองไม่แล่นอีกด้วย

ผู้ที่ขับรถตอนกลางคืน ส่วนใหญ่ต้องการความสามารถในการมองเห็น(VA)มากกว่า 1.2 แต่ในการใช้ชีวิตประจำวันVA 1.0 ก็เพียงพอสำหรับการมองเห็นอย่างชัดเจน

สำหรับวัยรุ่นที่สายตาสั้นมากๆ แม้จะใส่แว่นแล้วมองใกล้ ก็ยังสามารถเพ่งและมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่สำหรับผู้สูงอายุ ความสามารถในการเพ่งจะลดลงทำให้โฟกัสได้ยากขึ้น ในกรณีนี้อาจต้องลด VA ให้น้อยกว่า 1.0 เพื่อป้องกันอาการตาล้า ดังนั้นควรเข้ารับการวัดสายตาอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้มีค่าสายตาเยอะเกินไป

ไม่ชินแว่นใหม่ ทำยังไงดี?

หลังจากที่เพิ่งตัดแว่นมาใหม่ๆ อาจรู้สึกมึนหัวในช่วงแรก ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะต้องใช้เวลาปรับตัวกับแว่นใหม่ประมาณ 5-7 วัน พอเริ่มชินก็จะมองเห็นได้ดีขึ้น แต่ถ้าผ่านไป 5-7 วันแล้วยังรู้สึกว่าไม่สบายตา ก็สามารถไปปรึกษาได้ที่ร้าน OWNDAYS ทุกสาขา และยังสามารถใช้ประกันเปลี่ยนเลนส์ได้ 1 ครั้งโดยไม่มีค่าใช้จ่ายหากแว่นตาอยู่ในระยะการรับประกัน 1 ปี

มาเลือกแว่นที่มีค่าสายตาเหมาะกับตัวเองกันดีกว่า

หากใส่แว่นที่มีค่าสายตาไม่เหมาะกับตัวเอง ก็จะเกิดอาการไม่สบายตา เช่น เจ็บตา ตาล้า คลื่นไส้และเวียนหัวได้ ดังนั้นควรเลือกใส่แว่นที่มีค่าสายตาเหมาะกับตัวเอง เพื่อรักษาสุขภาพดวงตาของคุณ และเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าแว่นที่ใส่นั้นมองแล้วไม่สบายตา ก็สามารถไปใช้บริการวัดสายตาได้ที่ร้าน OWNDAYS สาขาใกล้บ้านคุณได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ค้นหาร้าน OWNDAYS ใกล้คุณ
TOP

TOP