OWNDAYS MEETS vol. 12 SABUผู้กำกับภาพยนตร์

เราอยู่กับ SABU ผู้กำกับภาพยนตร์ ซึ่งให้เกียรติมาเป็นแขกรับเชิญคนที่ 12 ของ OWNDAYS MEETS เขาคือผู้กำกับ นักประพันธ์ และนักเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง “Ama no Chasuke”

SABU

SABU

ผู้กำกับภาพยนตร์

เกิดที่จังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 1964
ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องแรกที่ชื่อ “Sorobanzuku” (ชื่อภาษาอังกฤษคือ “The Mercenaries”)ที่กำกับโดย Yoshimitsu Morita ในปี 1986
ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาแสดงคือ “World Apartment Horror” ที่ Katsuhiro Otomoเป็นคนกำกับในปี 1991โดยเขาได้รับรางวัลดาราหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์โยโกฮามาครั้งที่ 13
เขาเขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกชื่อ “Dangan Runner” ในปี 1996โดยได้รับการยอมรับจากโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ที่สนิทสนมกันภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเลือกให้ไปฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเบอร์ลินในปี 1996ในหมวดพาโนรามา นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลภาพยนต์โยโกฮามาครั้งที่ 18ด้วย
เขาสร้างภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาตลกขบขันและมอบความบันเทิงมากมายทั้งยังมีคุณูปการต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างมาก
นอกเหนือจากงานภาพยนตร์แล้ว เขายังได้เขียนหนังสือนวนิยายเล่มแรกชื่อ “Ama no Chasuke” ด้วย

ชีวิตและชะตากรรมของมนุษย์บนโลกถูกลิขิตและกำหนดโดยบรรดาเทพเซียนที่เขียนเรื่องราวของมนุษย์บนสวรรค์ Chasuke มีหน้าที่ชงชาบนสวรรค์เขาค้นพบว่าข้อความที่เขาเขียนขึ้นอย่างสะเพร่านั้นทำให้เหตุการณ์บนสวรรค์เปลี่ยนแปลงไปซึ่งส่งผลให้ชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ Yuri บนโลกมนุษย์เปลี่ยนไปด้วย มันทำให้Yuri ถูกลิขิตว่าต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยเหตุนี้ Chasuke จึงลงมาที่โลกมนุษย์และมุ่งหน้าไปยังโอกินาวา ซึ่งเป็นเมืองที่ Yuri อาศัยอยู่จุดหมายก็เพื่อช่วยชีวิตของเธอ

“Ama no Chasuke” นำแสดงโดย Ken’ichi Matsuyama ซึ่งแสดงเป็น Chasuke ส่วน Ito Ono แสดงเป็น Yuri และนี่นับเป็นครั้งที่สองที่ Ken’ichi Matsuyama มาร่วมแสดงในผลงานของ SABU หลังจากที่เคยแสดงในเรื่อง “Usagi Drop” มาก่อนหน้านี้ในขณะที่ Ito Ono ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากละครเรื่อง “Ama-chan” ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NHK ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีนักแสดงสมทบที่โดดเด่นอีกมากมายเช่น Ren Osugi, Yusuke Iseya, Hiromasa Taguchi, Tina Tamashiro และ Susumu Terashima.Ryo นักร้องนำของวงร็อคชื่อดังอย่าง Orange Range เองก็มาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน

ภาพยนตร์เรื่อง “Ama no Chasuke” ฉายทั่วประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2015

อะไรเป็นแรงบันดาลใจในการมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์

ผมเคยเป็นนักแสดงมากว่าสิบปีและเคยทำงานในภาพยนตร์หลายเรื่อง แต่สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไปตอนที่ผมแสดงหนังเรื่อง "World Apartment Horror” ซึ่งเขียนบทและกำกับโดย Katsuhiro Otomo หลังจากมาร่วมงานกับเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมก็รู้สึกว่าขาดอะไรบางอย่างไป
ตอนนั้น ภาพยนตร์บูมอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วก็มีการผลิตพวกภาพยนตร์แบบวิดีโอ (Video Cinema หรือ V Cinema ซึ่งเป็นภาพยนตร์แบบ DVD เท่านั้น) กันมากชึ้น ผมดูหนังหลายเรื่องแล้วก็เห็นว่าแต่ละเรื่องนั้นคุณภาพไม่ต่างจากหนังราคาถูก ซึ่งผลงานคุณภาพต่ำเหล่านั้นมันทำให้ผมหงุดหงิดและโมโหมาก
ดังนั้น ผมก็เลยคิดว่า "ผมทำได้ดีกว่านี้อีกนะ"
วันหนึ่ง ภรรยาผมก็กระตุ้นให้ผมลองเขียนบทหนังดู เธอบอกว่า "คุณน่าจะลองเขียนบทหนังสักเรื่องนะ" ผมก็เลยเขียนเรื่อง “Dangan Runner” (ซึ่งหมายถึง "A Bullet Runner") เสร็จเป็นผลงานชิ้นแรก
พอเขียนบทเสร็จ ผมก็ถามเพื่อน ๆ อย่าง Shin’ichi Tsutumi และ Diamond☆Yukai ว่าอยากมาแสดงในหนังของผมไหม ซึ่งพวกเขาก็ตกลงว่าจะเอาด้วย
ผมเขียนบทให้ตัวเองด้วย โดยเป็นบทที่มีความสำคัญเป็นลำดับที่สี่ ตอนแรกผมก็คิดว่า น่าจะให้ใครสักคนกำกับเหมือนกันนะ แต่จู่ ๆ ผมก็เกิดคิดขึ้นมาว่า "คนเขียนบทน่าจะเป็นคนกำกับด้วย"
จริง ๆ แล้วผมไม่ได้อยากจะเป็นผู้กำกับเลยครับ แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ลองทำดูแล้วพบว่ามันน่าสนใจกว่าที่ผมคิดเอาไว้ นับแต่นั้น ผมก็เลยเป็นผู้กำกับหนังมาตลอด ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ความตั้งใจแรกของผมก็ตาม

คุณกลัวไหมที่ต้องผันตัวจากการเป็นนักแสดงมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์

ก็ไม่เชิงครับ ผมเก่งเรื่องสร้างเรื่องราวและการจินตนาการภาพมาตั้งแต่เด็กแล้ว ผมเรียนออกแบบที่โรงเรียน จึงรู้อยู่แล้วว่าต้องออกแบบฉากต่าง ๆ ในภาพยนตร์ยังไง
ที่จริง การที่ผมเคยทำงานในวงการภาพยนตร์มาก่อนในฐานะนักแสดงทำให้ผมเข้าใจว่านักแสดงเป็นยังไง และทีมงานคนอื่นต้องทำอะไรบ้าง ผมก็เลยรู้สึกว่า "อ้อ มันไม่ได้ยากเลยนี่"

ตอนคุณเขียนบทภาพยนตร์ คุณต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

ผมพยายามมองอย่างเป็นกลางครับ บทเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากสำหรับหนังทุก ๆ เรื่อง การอ่านบทภาพยนตร์โดยพยายามทำใจให้เป็นกลางมากที่สุดจะทำให้เรารู้เลยว่าบทมันน่าสนใจไหม
บทหนังของผมมักจะถูกนำมาแก้แล้วแก้อีกจนกว่าจะเริ่มถ่ายทำ ผมมักจะแก้บทเขียนในวันก่อน ๆ โดยตั้งคำถามว่า "นี่มันคืออะไร มันสนุกตรงไหน" ซึ่งผมทำแบบนี้เป็นบางครั้งครับ
ผมถามตัวเองว่าเรื่องมันน่าสนใจจริง ๆ ใช่ไหม แล้วก็แก้บทหลาย ๆ ครั้ง โดยมองมันอย่างเป็นกลาง

คุณมาทำภาพยนตร์เรื่อง "Ama no Chasuke" ได้ยังไง

ก่อนหน้านี้ ผมกำกับหนังที่คนอื่นเป็นคนเขียนบท แต่วันหนึ่ง ผมก็รู้สึกว่าอยากจะลองทำทุกอย่างด้วยตัวเองดู ตั้งแต่ขั้นตอนการเขียนนิยายเลย อีกอย่างหนึ่ง ผมก็คิดมาตลอดว่าถ้าผมเป็นคนเขียนนิยายขึ้นมาเอง ผมก็จะเอาไปทำหนังเองได้ง่ายขึ้นผมเขียนเรื่อง “Ama no Chasuke” เสร็จเมื่อราว ๆ สี่ปีที่แล้ว หลังจากนั้นผมได้ย้ายไปอยู่ที่โอกินาวา ที่นั่น ผมเห็นทิวทัศน์สวย ๆ เยอะมาก ผมได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและกิจกรรมสร้างความบันเทิงแบบโบราณ ซึ่งผมอยากใส่หลาย ๆ อย่างในหนังของผมด้วยผมรู้สึกว่าเรื่องราวของ “Ama no Chasuke” เหมาะเจาะกับทัศนียภาพของโอกินาวาพอดี ผมก็เลยเริ่มถ่ายทำหนังเรื่องนี้เพื่ออธิบายถึงความงามและวัฒนธรรมของที่นั่น รวมทั้งสื่ออะไรบางอย่างแก่ผู้ชมด้วย

ส่วนที่ยากในการถ่ายทำภาพยนตร์คืออะไร

ความแตกต่างระหว่างภาพที่ผมคิดไว้ในใจกับภาพจริง ๆ ที่ผมถ่ายทำครับ ซึ่งผมก็เข้าใจนะว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ตอนผมเขียนบทเสร็จ ผมรู้สึกว่า "งานนี้มันจะต้องสมบูรณ์แบบแน่" แต่พอหลังจากถ่ายทำเสร็จ ความสมบูรณ์แบบจะมีไม่เกิน 80% ครับ
แต่บางทีก็ตรงกันข้ามนะครับ หนังที่ออกมาอาจจะดีกว่าที่เราคาดไว้เมื่อองค์ประกอบทุกอย่างถูกนำมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงที่เล่นได้ดี หรือสถานที่ดำเนินเรื่องที่ช่วยให้เรื่องราวน่าประทับใจขึ้น ไม่มีใครรู้หรอกว่าหนังจะออกมาเป็นยังไง จนกว่าจะทำเสร็จ

คุณอยากจะทำหนังแบบไหนในอนาคต

ผมแค่อยากให้ผู้ชมสนุกและหัวเราะไปกับหนัง สำหรับผมแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอก็คือ คนดูจะชอบหนังของผมหรือเปล่า นี่คือสิ่งที่ผมคำนึงถึงอยู่เสมอ “Ama no Chasuke” ถูกส่งไปที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน 2015 และได้รับเลือกให้อยู่ในหมวดภาพยนตร์ประกวด ถึงอย่างนั้น ผมก็รู้สึกว่าแค่ได้รับเลือกมันยังไม่พอ เพราะถ้างานของผมถูกส่งไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ มันก็ต้องคว้ารางวัลใดรางวัลหนึ่งมาให้ได้ ถ้าเป็นไปได้ ก็ต้องเป็นรางวัลที่ดีที่สุดด้วย ซึ่งมันจะนำไปสู่ความสำเร็จในครั้งต่อไป

คุณได้ความคิดนี้มาได้ยังไง

ผมชอบกำจัดอะไรที่มันตายตัวทิ้งไป ยกตัวอย่างเช่นการมานั่งคิดว่าภาพยนตร์แต่ละประเภท เช่น ภาพยนตร์แอ็คชันและภาพยนตร์สืบสวน "มันควรจะเป็นแบบไหน" ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเราคิดอย่างเหมารวมและกำหนดรูปแบบเอาไว้ โดยผมจะพยายามที่จะหลีกเลี่ยงแนวคิดเหมารวมแล้วก็รูปแบบเหล่านี้ ผมถนัดเรื่องการสร้างสิ่งต่าง ๆ ที่เหนือกว่าความคาดหวังครับ ผมพบว่าการทลายกำแพงที่มีอยู่และสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็นเรื่องที่สนุกมาก ผมพยายามสร้างสรรค์สิ่งที่คนไม่คาดคิดมาก่อน จริง ๆ นี่ฟังดูเหมือนแปลกนะ แต่บางครั้ง จู่ ๆ ความคิดพวกนี้ก็แวบเข้ามาในหัวผมเฉยเลย (หัวเราะ)
ผมอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้เหมือนกัน แต่พอผมอยากจะเห็นอะไรขึ้นมา อะไรบางอย่างกว้าง ๆ ก็จะแวบเข้ามา
มันอาจจะจะยังพร่ามัวไม่ชัดเจน ซึ่งผมจะต้องทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างและชัดเจนขึ้นทีละเล็กทีละน้อย พอทุกอย่างลงตัวในจังหวะเวลาเหมาะสม แนวคิดก็จะทะลักเข้ามาในหัวผม นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ แต่น่าสนใจมาก

อะไรคือความสุขที่แท้จริงของการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์

จริง ๆ ผมไม่ได้คิดนะว่าผมเป็นผู้กำกับหนัง
ผมคงพูดว่า ผมยังไปไม่ถึงจุดนั้น
ผมแค่รู้สึกทึ่งกับอิทธิพลและศักยภาพของหนังตอนนึกถึงจำนวนของคนที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำหนังเรื่องหนึ่งของผม และต้นทุนในการทำหนังแต่ละเรื่อง นอกจากนี้ คุณยังจะได้ออกไปนอกญี่ปุ่น ไปรู้จักโลก และเปิดมุมมองให้กว้างขึ้นด้วย ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ งานของผมเป็นแรงกระตุ้นให้คนอื่นเข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมหนัง นั่นแสดงว่างานผมเปลี่ยนชีวิตของคนอื่น

มีอะไรอยากบอกคนที่อาจจะได้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ในอนาคตไหม

อย่างแรกเลย คุณไม่มีทางทำได้ดีกว่าผมแน่นอน คุณจะแพ้ผมอย่างยับเยินเลยถ้ามาท้าทายผม (หัวเราะ)
นอกจากนี้ คุณจะต้องนึกภาพให้ออกว่าคุณต้องการทำอะไรและต้องการเป็นอะไรแบบไหนในอนาคต หรือที่เราเรียกกันว่า "ความปรารถนา" นั่นแหละครับ นี่เป็นสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อใน "Ama no Chasuke” ครับ
ผมชอบฝันและวาดภาพในอุดมคติว่าผมอยากจะเป็นแบบไหน
แต่แค่นึกภาพมันยังไม่พอนะครับ คุณจะต้องวางแผนอย่างละเอียด และทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้ความฝันของคุณเป็นจริง จำไว้ว่าควรมีจินตนาการอยู่เสมอ และฝึกจินตนาการของคุณเป็นประจำทุกวันมิถุนายน 2015
ที่ HEARTH cafe

Guest Select BUTTERFLY EFFECT

  • BUTTERFLY EFFECT/OE2574

ผมมักจะสวมแว่นกันแดดเพื่อให้ตัวเองดูเจ๋งแต่พวกมันเกือบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งบนใบหน้าของผมไปแล้ว น่าทึ่งนะ ขนาดคุณ Kurosawa(ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังก้องโลก) ยังสวมแว่นกันแดดตลอดเวลาเลย นี่ก็อาจจะเป็น "สไตล์ของผม"ไปเลยก็ได้นะ
มันเป็นของจำเป็นอย่างหนึ่งเลยนะ เหมือนกับดาบของนักรบซามูไร เหมือนอาวุธไว้ป้องกันตัวเองน่ะครับ

รหัสสินค้า
OE2574
สี
C1 Black
TOP

TOP